วันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ถ้ำแตก - การละสังขารของแม่ชีเมี้ยน

หลังจากการจากไปของพระนิพนธ์ และการลาสังขารของแมีชีเมี้ยน เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2515 ก็เกิดภาวะที่คนทั่วไปเรียกว่า ถ้ำแตก ผลก็คือ มีการกระจัดกระจายของพระ และแม่ชี แยกตัวออกไปตั้งสำนักเองกันมากมาย เช่น อาจารย์แพง อาจารย์โกวินทะ (วัดไผ่รื่นรมย์) อาจารย์สุชาติ (สำนักอยู่ที่ชลบุรี) วัดเจริญธรรม ถ้ำเขาภูตอง (ของแม่ชี) และอื่นๆ อีก รวม 9 สำนัก และเท่าที่ทราบ ผู้ที่เป็นเจ้าสำนักทั้งเก้า ปัจจุบัน ได้เสียชีวิตไปเกือบหมดแล้ว ที่ล่าสุดคือ ท่านโกวินทะ  คงเหลือแต่ท่านวิชัย ที่จัดว่าเป็นพระยุคแรกที่ยังเหลืออยู่ สำนักตั้งอยู่ที่ ต.โคกตูม จ.ลพบุรี เพียงองค์เดียว

สิ่งที่น่าสังเกต คือ สำนักต่างๆ ที่แตกมาจากถ้ำในยุคแรก ล้วนแล้วแต่นำสูตรสมุนไพรไปใช้ แต่ไม่มีสำนักใดประสพความสำเร็จเลย จนต้องเลิกราในการรับผู้ป่วยไปในที่สุด คงเหลือไว้แต่ห้องอบสมุนไพรที่ยังพอมีให้เห็นบ้าง

และเมื่อถ้ำกระบอก ได้ปกครองโดยพระพี่น้อง คือ ท่านจำรูญ และท่านเจริญ ปานจันทร์ มาระยะหนึ่ง ก็เกิดสำนักที่แตกแยกออกมาจากถ้ำอีกหลายสำนักเช่นกัน อาทิเช่น วัดเนินรังวรปัญญา (ลานนางฟ้า) ของท่านนราธิป เป็นต้น

เมื่อพระนิพนธ์ได้ลาสิกขาจากถ้ำกระบอก ก็มิได้นำสิ่งอื่นใดมาด้วย  ยกเว้นตำราสมุนไพรของแม่ชีเมี้ยนที่ถ่ายทอดให้เพียงเล่มเดียว  จากข่าวในหนังสือพิมพ์ในสมัยนั้น ระบุว่า เจ้าอาวาส ท่านจำรูญ ปานจันทร์ ได้แจ้งความกับตำรวจ สระบุรี แจ้งข้อหาท่านนิพนธ์ ว่าลักทรัพย์ของถ้ำกระบอก  จนทำให้ท่านนิพนธ์ ต้องหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาว และภายหลังต่อมาได้มีลูกศิษย์ที่เป็นนายทหารและผู้ใหญ่บางท่าน มาช่วยไกล่เกลี่ย จนในที่สุด ท่านจำรูญ จึงได้มีการถอนแจ้งความ

การถอนแจ้งความในครั้งนั้น มีสัญญาใจระหว่างพี่น้องที่สำคัญคือ ท่านนิพนธ์จะต้องไม่กลับมาบวชและตั้งสำนัก เพื่อให้การรักษาแข่งกับถ้ำกระบอก ตราบใดที่ท่านจำรูญ ยังคงมีชีวิตอยู่  ด้วยเหตุนี้ ชื่อของท่านนิพนธ์ จึงค่อยๆ เลือนหายไป จากถ้ำกระบอก จะมีก็แต่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกลุ่มเล็กๆ แถบเมืองกาญจน์เท่านั้นที่ยังคงติดต่อและติดตามมา  และท่านนิพนธ์ ก็ไม่เคยที่จะติดต่อลูกศิษย์เก่าๆ หรือกลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการใดๆ ของถ้ำกระบอก  นับตั้งแต่นั้นมา การกลับไปยังถ้ำกระบอกของท่านนิพนธ์ ก็มีเพียงก่อนที่ท่านจำรูญจะมรณภาพ เพื่อให้ไปรับมอบสิทธิ์การรับรักษาผู้ป่วยยาเสพติดต่อจากท่าน อันเนื่องมาจากข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุข ที่บัญญัติว่า ผู้ที่รับช่วงต่อ ต้องเป็นผู้ที่สามารถทำสมุนไพรได้เท่านั้น  ท่านจำรูญจึงได้ให้คนมาตามท่านนิพนธ์และร้องขอให้รับช่วงสิทธิ์นี้ เพื่อไม่ให้สิ้นตามท่านไป

สิ่งที่เป็นเรื่องบังเอิญ ในการรักษาผู้ป่วยยาเสพติด ที่เล่าขานกันมา คือ ในระยะแรก การรักษาโดยสมุนไพร จะเน้นเฉพาะผู้ป่วยยาเสพติดเท่านั้น  แต่เมื่อเปิดรักษาไประยะหนึ่ง ก็พบว่า ผู้ที่หายจากยาเสพติด ล้วนแล้วแต่ได้ผลที่ไม่คาดคิดด้วยคือ โรคประจำตัวอยู่เดิมได้หายไป  ดังนั้น จึงมีการเล่าขานกันในยุคนั้นมาก จนทำให้มีผู้ป่วยโรคอื่นๆ มาติดต่อขอรับการรักษา แต่พระท่านก็ยืนยันที่จะไม่รับ โดยขอรับเฉพาะผู้ป่วยยาเสพติดเท่านั้น  ดังนั้นจึงมีผู้ป่วยจำนวนมากต้องกลับบ้านไป และไปหัดเสพยาเสพติด เพื่อกลับไปให้พระรักษา จนในที่สุด จึงได้มีการรับรักษาผู้ป่วยอื่นด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44