วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เสียสละ


บทสนทนาของเลขาสังฆราช ที่เป็นตัวแทนซึ่งมาพร้อมกับ อธิบดีกรมศาสนา คือ คุณฟุ้ง ศรีวิจารณ์ เพื่อสอบสวนพระถ้ำกระบอก ซึ่งมีตัวแทนคือ พระนิพนธ์ มีความตอนหนึ่ง คือ "ท่าน และพระทั้งหมด เชื่ออย่างไรว่า คำสอนที่แม่ชีเมี้ยนนำมาสอน เป็นคำสั่่งสอนของพระพุทธเจ้า เพราะคำสอนเหล่านั้น ขัดกับพระไตรปิฏกอย่างสิ้นเชิง"

คำตอบที่ ท่านนิพนธ์ ตอบ คือ แม่ชีเมี้ยน สอนว่า พระพุทธเจ้า ท่านสละบัลลังก์ คือ สละช้อนทอง มาทานช้อนธรรมดา เดินกลางดิน กินกลางทราย ดังนั้น วินัยที่ท่านและ พระปฏิบัติ คือ ฉันมื้อเดียว ซึ่งเมื่อลองดูแล้ว ก็ปรากฎว่าอยู่ได้ เงินทองไม่รับ ก็เพราะถ้ามีเงินแล้วความอยากก็เกิด รวมทั้ง รถเรือไม่ขึ้น ก็ทำให้ความอยากที่จะไปโน่นไปนี่ เมื่อคิดถึงว่าต้องเดินไป ก็หายอยากไปสิ้น

ก็ตอนมาบวช ก็มาจากลูกชาวนา กินข้อนธรรมดา มาห่มผ้าเหลืองสถานะเปลี่ยนไป เมื่อรับเงินรับทอง ก็อยากเปลี่ยนสถานะ จากช้อนธรรมดาก็เป็นช้อนทอง จากเดิน ก็ไปมีรถเบ็นซ์ หลักเช่นนั้นจะเรียกได้อย่างไรว่า ทำตามพระพุทธเจ้า

จากการสนทนาครั้งนั้น ทำให้พระเลขาสังฆราช ถึงกับโกรธลุกขึ้นเพื่อจะเตะท่านนิพนธ์ ดีแต่ว่าพระที่มาด้วยห้ามไว้ ท่านจึงออกไปขึ้นรถเบ็นซ์กลับ

เมื่อรอดจากคดีความ ทำให้ถ้ำกระบอกมีชื่อเสียงขจรขยายไปมากกว่าเดิม ผู้คนหลั่งไหลกันมาอย่างมากมาย ทำให้ท่านนิพนธ์ได้ร้องขอแม่ชีเมี้ยน ให้เปิดรับบริจาค เพื่อจะได้นำเงินไปซื้อสมุนไพร

คำตอบที่ได้จากแม่ชีเมี้ยน คือ นั่นแหละคือกิเลสของพวกท่าน ใช้สิ่งนี้เป็นข้ออ้างแล้วรับเงิน ก็พระพุทธเจ้าทิ้งวังและช้อนทอง มาแสวงหาโมกขธรรม เดินจนเท้าลอกแล้วลอกอีก ด้วยความเสียสละ จนบรรลุโมกขธรรม ไม่ได้ใช้เงินแม้แต่รูปีเดียว ธรรมที่ได้มามีค่ามหาศาล ทำให้ท่านและสาวกไปนิพพานได้

นั่นย่อมแสดงว่า ธรรมย่อมเป็นเครื่องดึงดูดใจ ให้คนมาศรัทธา และเกื้อกูลในกิจกรรมของศาสนาอยู่แล้ว สิ่งที่ท่านอ้าง ว่าเป็นความจำเป็น เช่น ตั้งตู้บริจาค จัดมหรสพ หรือ นำสิ่งใดมาเพื่อให้คนเข้ามาหาพระ ล้วนแล้วแต่เป็นไปด้วยกิเลสของท่าน และเป็นการทำที่สวนทางกับพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น

ธรรมย่อมมีอำนาจ และบุญญาธิการ อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านั้น ด้วยความเสียสละตนทำตนจนเป็นพระพุทธเจ้า ก็ย่อมมีคนเห็นค่าในสิ่งที่ท่านทำและมาเกื้อกูลร่วมกิจกรรมอย่างแน่นอน ดังนั้น วินัยของท่าน จึงไม่รับเงินทอง

การก็ปรากฎตามนั้น กิจกรรมของถ้ำกระบอกก็ดำเนินมาได้ โดยมิมีการรับเงินและทองแต่อย่างใด นั่นจึงเป็นที่มาว่า ทำไม หลวงพ่อนิพนธ์ จึง ไม่ตั้งตู้ และแจกสมุนไพรฟรีอยู่ได้ มาตั้งแต่ปี 30 ก็ด้วยความเสียสละ และมีคนเห็นค่านั่นเอง

คุณประโยชน์ของการเสียสละ จึงมีความหมายยิ่งนัก และวันนี้เราได้ทำตามพระพุทธเจ้าหรือยัง หรือจะทำก็ต่อเมื่อมีราค่างวดเท่านั้น

ก็คนมีเงินล้นอย่าง สตีฟ จ๊อบส์ ยังช่วยตนเองไม่ได้ แต่การเสียสละของ คุณปอ ในการเป็นเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ หรือ คุณราชันและภรรยา ที่มารับผิดชอบการทำสมุนไพร ค่าของสิ่งที่ทำ ทำให้รอดจากมะเร็งได้ สิ่งใดจะมีค่ามากกว่ากัน "หาเงิน หรือหาบุญจากการเสียสละ" ลองคิดดูเล่นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44