วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คิดเอามือปิดฟ้า


ยุคสมัยเปลี่ยนไป การสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการโฆษณา ที่เคยใช้ได้ผลเช่นในอดีต มาวันนี้ เริ่มใช้ไม่ได้ดีเหมือนเดิมแล้ว

ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ด้วยความด้อยของการเข้าถึงข้อมูล ทำให้เพียงแค่ไม่กี่ปี สถานพยาบาลที่ไปถึงยากหนักหนาในอดีต ปัจจุบันยาเคมี กลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน มีติดกันทุกครัวเรือน

และยาก็กลายเป็นพระเจ้า ที่ทุกคนร้องหา ยามประสพโรคภัย โดยไม่สนว่า ทานไปแล้วจะเป็นอย่างไรในอนาคต หวังผลเฉพาะหน้าเท่านั้นเอง

การปิดบังข้อมูลที่สำคัญ หรือข้อจำกัดในการใช้ยาเคมี ถูกปกปิดเป็นความลับ ทั้งที่เป็นส่วนสำคัญมีผลต่อชีวิตผู้ทานเป็นอย่างยิ่ง นั่นหมายความว่า หากใช้ถูก ยาเคมีก็มีประโยชน์มหาศาล หากใช้ผิดวิธี โทษก็อนันต์เช่นกัน

แต่เมื่อข้อมูลข่าวสารรวดเร็วขึ้น กว้างขวางมากขึ้น ข้อมูลก็เริ่มทยอยถูกเปิดมาให้คนทั่วไปได้พิจารณา และไตร่ตรองให้ดีว่า หนทางที่ถูกเสนอมานับตั้งแต่อดีต และความเชื่อเดิมที่มีมานั้น ถูกหรือผิด และการวางใจเอาชีวิตไปฝากไว้กับผู้อื่น โดยเชื่อมั่นเพียงแค่เห็นเครื่องมือ และใบรับรองนั้นสมควรหรือ

เราจึงอยากแนะนำหนังสือเล่มหนึ่ง ที่คนควรจะอ่าน เพื่อใช้ในการตัดสินใจ เมื่อยามที่ตัวเองประสพโรคภัย และกำลังหาหนทางวิธีเพื่อแก้ไข อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า สิ่งที่กำลังคิด ทางที่เลือก เหมาะสมกับตนหรือไม่

หนังสือ ชื่อ "อย่าให้คุณหมอฆ่าคุณ"


เขียนโดยแพทย์ประจำภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ ผู้ได้รับรางวัลเกียรติคุณ ของประเทศญี่ปุ่น

เป้าหมายของคุณหมอคือ ให้คุณห่างไกลยาและการรักษาที่ไม่จำเป็น

เนื้อหาที่น่าสนใจอาทิเช่น ๙๐ เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคมะเร็งในญี่ปุ่น หากปล่อยเนื้อร้ายทิงไว้ จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรงมากกว่า การเข้ารับการรักษา

ยาต้านมะเร็งหรือเคมีบำบัด (คีโม) เป็นพิษที่ร้ายแรง มีฤทธิ์แค่ "ทำก้อนเนื้อร้ายให้เล็กลงชั่วคราว" ไม่ได้ช่วยรักษาหรือมีประโยชน์ในการยื้อชีวิตออกไปแต่อย่างใด

มีการปรับมาตรฐานค่าความดันโลหิตสูงสุดจาก ๑๖๐ ลงมาเป็น ๑๔๐ ในปี ๒๐๐๐ และเป็น ๑๓๐ ในปี ๒๐๐๘ ทำให้อยู่ดีๆ คนจำนวนมากกลายเป็นโรคความดันทันที

มะเร็งไม่สร้างความเจ็บปวดแม้จะปล่อยไว้ก็มีไม่น้อย เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งมดลูก ...

ก้อนมะเร็งมีทั้งของจริงของปลอม แต่ไม่ว่าจะจริงหรือปลอม การรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำคีโม จะเปล่าประโยชน์เสีย ๙๐ เปอร์เซ็นต์

ก้อนมะเร็งไม่ได้ทำให้เราต้องทุกข์ทรมานจนกระทั่งเสียชีวิตหรอก แต่สาเหตุคือ "กระบวนการรักษามะเร็ง" ต่างหาก

ยาลดคลอเลสตรอรอลที่ขายกันทั่วไป มีโอกาสป้องกันโรคได้น้อยกว่าการถูกล็อตเตอรี่เสียอีก และมีการปรับค่าลงเช่นเดียวกับความดัน จนคนอเมริกา ๘ ใน ๙ คนกลายเป็นผู้มีไขมันเกิน ทำให้เกิดการประท้วงกันอย่างกว้างขวาง

การฉายรังสีหรือซีทีแสกน แม้นแต่ผู้ที่มีร่างกายดี ก็เสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง

หากไม่รักษามะเร็ง เราก็สามารถควบคุมความเจ็บปวดได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด สติอยู่ครบถ้วน ไม่มีการเลอะเลือนจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต และเมื่อเทียบกับผู้ที่ทำการรักษา หัวสมองจะปลอดโปร่งกว่ามาก และไม่สูญเสียกิจกรรมหลายๆอย่าง เช่น การเดินเล่น ด้วย

ผู้เขียน Kondo Makoto แปลโดย ชุติมน ยงมานิตชัย

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์จึงเตือนเสมอว่า อย่าตื่นตูม กลัวคำโฆษณา เอาคำว่าตายมาแปะ ก็วิ่งหาหมอหายากัน จนเกินเหตุ พาชีวิตหายนะไป ไม่ใช่ด้วยโรคที่เป็น หากแต่ผลแห่งการรักษานั่นเอง

คำส่งท้ายที่มักใช้เตือนสติ ให้คิดพิจารณา ว่า บรรพบุรุษของเราท่าน ไม่มีโรงพยาบาล ไม่มียาเม็ด ไม่มีหมอ เครื่องมือที่ทันสมัยเฉกเช่นปัจจุบัน แล้วพวกเขาสืบต่อลูกหลานกันมาอย่างไร ได้จนถึงวันนี้

สารพันจากโรคที่เป็นเพิ่มขึ้นมาในตัวเรา หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า มีที่มาจากการเลี่ยงกรรม ไม่ยอมรับความเจ็บปวด แม้นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม มันจึงมีบทเริ่มจากการทานยาแก้ปวด นั่นเอง กลายมาเป็นผลข้างเคียงลูกโซ่ ก่อให้เกิดโรคใหม่ ไปเรื่อยๆ ...

คำที่หลวงพ่อนิพนธ์ทิ้งไว้ให้คิด ถ้ายารักษาโรคได้จริง ป่านนี้โรงงานเจ๊งไปหมดแล้ว เพราะคนทานมีแต่ลด นี่กลับกัน โรงงานขยายเอาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผลิตไม่ทัน คนกินคนเก่าก็ยังอยู่ คนใหม่ก็เพิ่มขึ้น

วิชาการแพทย์ หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า มีประโยชน์ หากแต่ใช้ยามประสพอุบัติเหตุแห่งชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่พร่ำเพรื่อ กลายเป็นปัจจัยห้าของชีวิต กินกันยิ่งกว่าอาหาร ๓ มื้ออีก

ประเทศชั้นนำผู้ผลิตยาส่งออกทั่วโลก จึงออกกฎหมายห้ามประชาชนของตน ซ์้อยาเคมีเกินความจำเป็น

เมื่อข้อมูลข่าวสารเปิดเผย แพร่กระจายมาก การถูกหลอก เสมือนให้กินน้ำมันพืชในการทำอาหารแทนน้ำมันสัตว์ ด้วยอ้างวิชาการมัวๆ เพราะเหตุอุตสาหกรรมสีตกต่ำ น้ำมันพืชที่ใช้ทำสีขายไม่ได้ ก็มาหลอกให้เลิกทานน้ำมันหมู มาทานน้ำมันพืชแทน วันนี้ก็ประจักษ์ว่า น้ำมันที่ใช้ทำอาหารดีที่สุด ไม่มีอะไรเกินน้ำมันหมู เสมือนที่บรรพบุรุษเราท่านทำกินกันมาตั้งแต่ในอดีตนั่นแล

ก็ถ้ายารักษาโรคมันมีจริง ประเทศผู้ผลิต ก็คงไม่มีคนตายด้วยโรคนั้นๆเป็นแน่แท้ ใครเล่าจะไม่ช่วยพวกตนก่อน ... แต่นี่เห็นตายกันโครมๆ

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44