วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สวนทาง

ความจริงของโลก พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีมนุษย์หรือสรรพสัตว์ใดในโลกที่จะเหนือกรรม หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้เห็นว่า นั่นคือ "สิ่งศักดิ์สิทธิ์เดียวในโลก"

หากเราท่านย้อนไปดูประวัติศาสตร์ แล้วตั้งคำถาม แล้วพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ใช้สิ่งใดเล่า จึงสามารถชนะกรรมได้ แม่ชีเมี้ยนก็ตรัสชี้ให้เห็นว่า นั่นคือ ปัญญาของโลกุตตระ และอำนาจธรรม

หลวงพ่อนิพนธ์ก็ชี้ให้พิจารณาว่า ก็แล้วพระพุทธเจ้าทำอย่างไร จึงหนี เกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้เล่า ก็ด้วยการตัดกิเลส นิสัย สันดาน อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

เมื่อหันกลับมายังเราท่าน ปรารถนาก็เพียงแค่หายโรค ซึ่งเป็นงานที่ง่ายกว่าเยอะ และทำได้

แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาการกระทำ ที่ชี้จุดว่า เหตุเกิดจากนิสัย ปฐมบทที่พระพุทธเจ้าทรงกระทำ คือ การลดนิสัยกาย ด้วยการเปลี่ยนเป็นเพศบรรพชิต หรือบวช แล้วจึงตามด้วยลดนิสัย วาจา และ ใจ

การหายโรค ย่อมหลีกหนี การต้องเปลี่ยนนิสัยไม่ได้เลย คนที่มาเพื่ออยากหายโรค แม่ชีเมี้ยนจึงตรัสว่า ก็ต้องทำตนเป็นพระขอนิสัย

เพราะนิสัยใหม่ การกระทำใหม่ อันเป็นนิสัยของพระพุทธเจ้า จักทำให้พรหมลิขิตของเราท่านเปลี่ยนได้ พ้นโรคได้ และมีชีวิตที่ปลอดภัย

ยุคถ้ำกระบอก คำถามที่คนทั้งหลายมักจะเจอ โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคหนัก ก็คือ บวชได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็กลับบ้านไป

หลวงพ่อนิพนธ์ แปลความให้ฟังว่า นั่นหมายความว่า หากจะเอาเป็นมาตรฐาน ที่คนอยากหายโรค ต้องทำ และเมื่อทำได้ ก็สมปรารถนาทุกตัวคน นั่นก็คือ เปลี่ยนกายเป็นสงฆ์ แล้วเรียนรู้ ปฏิบัติ เพื่อให้เกิดนิสัยใหม่แก่ตนให้จงได้ เมื่อทำได้ ก็ได้พรหมลิขิตที่ดี ชีวิตปลอดภัย แล้วมีร่างกายสุขภาพดีเป็นของแถม สึกออกไป ก็จะพบแต่สุขสมปรารถนา

หากมาวันนี้ คนก็ยังคงอยากได้ตามหวัง แต่พฤติกรรมการกระทำ กลับสวนทางกับสิ่งที่คนรักษาบอก แทบจะทุกตัวคน

บวชได้ไหม ... ไม่ได้ มีภาระเยอะ ... มาปฏิบัติกิจ สัปดาห์ละครั้งที่วัดได้ไหม .. ไม่ได้ ... ไม่ว่าง ไม่มีเวลา ... มารับสมุนไพร สัปดาห์ละครั้ง และทำกิจกรรม ได้ไหม ... ไม่ได้ มีเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ที่จะไม่สวดมนต์ ไม่พัฒนาตนใดๆเลย สิ่งที่คนรักษาบอก ทำแล้วช่วยตนได้ วางเฉย แต่สิ่งที่หมอบอก เจ้าบอก เจ้าพิธีบอก ทำตามหมด ไม่มีบิดพริ้ว ทั้งๆที่สิ่งเหล่านั้นช่วยตนไม่ได้เลย

บทสรุป หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวเสมอว่า มันจึงเป็นการยาก ที่จะหวังผล เพราะคนทั้งหลายทั้งปวง เอาตนเป็นที่ตั้ง ไม่ทำตนเหมือนไปหาหมอ ที่บอกอะไรก็ทำตาม อย่างเคร่งครัด สถานที่นี้ ใครทำตาม และทำได้ มาตรฐาน การันตีได้รอดทุกตัวคน และกลายเป็นคนดี ที่สังคมอยากได้ ไม่มีใครอยากทำ แต่ทุกคนอยากรอด ก็คงได้แค่อยาก แต่ไม่รู้จะรอดหรือไม่

หนักไปกว่านั้นอีก หนทางรอดที่เกิดจากความสงบ แต่คนที่อยากรอด กลับมาทำลายสิ้น ใช้นิสัยตน อ้างตนเป็นจิตอาสาบ้าง เป็นแล้วคุยได้ สถานที่สงบทำให้คนรอด ก็เลยกลายเป็นชวนกันมาตาย เพราะคนที่มาไม่รู้ เห็นคนมาก่อน คุยได้ เล่นได้ ไม่ต้องสงบ กูก็ทำมั่ง

เราจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหลวงพ่อนิพนธ์จึงต้องแยก อยากทำแบบชิวๆ เล่นกันตามสันดานนิสัย ก็ไปมูลนิธิ ที่ซึ่งวัดดวงกันเอาเอง จะหาผลเป็นแก่นสารไม่ได้ ใครทำใครได้ กับสถานปฏิบัติธรรมแม่ชีเมี้ยนกรุณา ที่ซึ่งเดินตามมาตรฐาน ของพระพุทธศาสนา เป็นที่สงบ เป็นที่ปฏิบัติ ฝึกสร้างนิสัยพระพุทธ ที่ใครทำได้ การันตีรอดทุกตัวคน

แต่ก็นั่นแหละ คนทั้งหลายก็อ้างความเห็น ความจำเป็น ปฏิบัติ เริ่มที่การบวช เปลี่ยนกายก่อน ก็ต่อรอง ... ไม่รู้หรอกว่า ไม่คิดหรอกว่า ... ถามกรรมเขาแล้วหรือยัง เขาจะยอมหรือไม่

ยิ่งพฤติกรรมสวนทางกับมาตรฐานเท่าไหร ยิ่งห่างไกลผลที่จะพึงได้เท่านั้น สถานที่สร้างเป็นเอกลักษณ์ของศาสนา เพราะเล็งเห็นว่า ความสงบ จึงเป็นบ่อเกิดหนทางช่วยให้รอด รู้แล้วควรช่วยสร้างหนทางรอด แต่มองดูความจริง ยิ่งอยู่นาน ยิ่งทำลาย มันกลายเป็นตลาดไปแล้ว เล่นบรรเลงกันมั่ว .... หลวงพ่อนิพนธ์จึงให้สติว่า "ตลาดมันช่วยใครได้บ้างเล่า"

วันหนึ่งสมุนไพรที่รับจากมูลนิธิก็จะด้อยค่าลง กลายเป็นเสมือนกินน้ำ ก็เท่านั้น

ฤาถึงเวลาแล้ว ที่วัดกันไปเลย ใครอยากรอดก็บวช ใครไม่บวชก็บ้านใครบ้านมัน เหมือนยุคถ้ำกระบอก ของแม่ชีเมี้ยน ... จะมาเสียเวลากันทำไม เมื่อทำแล้วไม่ได้ผล ช่วยแล้วไม่ได้คนดี ทำเสมือนศาสนาเป็นขี้ข้า

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44